กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (“กองทุนฯ” หรือ “DIF”) ได้รับไฟเขียวจากผู้ถือหน่วยลงทุนเข้าลงทุนในทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จากกลุ่มทรู มูลค่ารวมไม่เกิน 15,800 ล้านบาท และอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนรวมไม่เกิน 10,500 ล้านบาท เตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 1,050 ล้านหน่วย แก่ผู้ถือหน่วย ลงทุนเดิมที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุน ตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนเพื่อรองรับการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล หรือ Digital Telecommunications Infrastructure Fund (DIF) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล ครั้งที่ 1/2562 มีมติอนุมัติให้กองทุน DIF เข้าลงทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จากกลุ่มทรู มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 15,800 ล้านบาท และอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของกองทุนฯ รวมไม่เกิน 10,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการเข้าลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์กองทุนในการเพิ่มโอกาสจัดหาผลประโยชน์และผลตอบแทนการลงทุนที่ดีจากทรัพย์สินของกองทุนฯ ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในระยะยาว รวมถึงรองรับเทรนด์เติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
สำหรับทรัพย์สินที่กองทุน DIF จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้มีความหลากหลาย ประกอบด้วย
ส่วนแหล่งเงินที่ใช้เพื่อลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ จะมาจากการเพิ่มทุนจดทะเบียนกองทุน DIF จํานวนรวมไม่เกิน 10,500,000,000 บาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจากเดิมอยู่ที่ 96,379,430,540 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หน่วยละ 10 บาท เป็นทุนจดทะเบียนไม่เกิน 106,879,430,540 บาท โดยจะออกและเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่ จำนวนไม่เกิน 1,050 ล้านหน่วย แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุน ซึ่งจะดำเนินการกำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิจองซื้อในการเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่ต่อไป
สำหรับการเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จะทำให้ประมาณการเงินปันผลส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุน (Cash Distribution Per Unit หรือ DPU) ไม่ต่ำกว่าประมาณการเงินปันผลส่วนแบ่งกำไรของกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้เข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 4 สำหรับช่วงเวลาตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2563 ซึ่งจัดเตรียมโดยบริษัทจัดการ ตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต อยู่ที่ 1.044 บาทต่อหน่วย
นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 4 จะทำให้กองทุน DIF มีขนาดทรัพย์สินและมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายหน่วยลงทุนและความน่าสนใจในการลงทุน รวมถึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ถือหน่วยเดิมจะตัดสินใจลงทุนเพิ่มเพื่อโอกาสรับผลตอบแทน โดยคาดว่ากองทุนฯ จะสามารถจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่ลงทุนเพิ่มเติม โดยให้เช่าระยะยาวแก่กลุ่มทรู หนึ่งในผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้เช่าหลักของกองทุนฯ นอกจากนี้ กองทุน DIF ยังสามารถนำทรัพย์สินส่วนที่เหลือไปจัดหาผลประโยชน์เพิ่มเติมจากผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายอื่นอีกด้วย
โดยหลังจากนี้กองทุน DIF จะดำเนินการกำหนดจำนวนหน่วยลงทุนใหม่และราคาเสนอขาย วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิ์จองซื้อหน่วยลงทุนใหม่ (Record Date) ต่อไป